สรรพคุณของละมุด








Image result for ละมุด                                  

ละมุด

ละมุด ชื่อสามัญ Sapodilla
ละมุด ชื่อวิทยาศาสตร์ Manilkara zapota (L.) P.Royen (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Manilkara achras (Mill.) Fosberg) จัดอยู่ในวงศ์พิกุล (SAPOTACEAE)
ละมุด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ละมุดฝรั่ง (ภาคกลาง), ชวานิลอ (ปัตตานี, มลายู, ยะลา), สวา เป็นต้น

ลักษณะของละมุด

    รูปละมุด
  • ต้นละมุด มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนแถว ๆ ประเทศเม็กซิโก อเมริกากลาง และอินเดียตะวันตก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง พุ่มทึบ มีกิ่งก้านแตกออกเป็นชั้น ๆ รอบ ๆ ลำต้น แหล่งที่ปลูกละมุดในบ้านเราก็ที่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี โดยสายพันธุ์ละมุดที่นิยมปลูกนั้นก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด นั่นก็คือ ละมุดไทย (ละมุดสีดา) และละมุดฝรั่ง
  • ใบละมุด ใบเป็นใบเดี่ยว มักออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเขียว
  • ดอกละมุด ลักษณะของดอกละมุดเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกตามง่ามกิ่ง มีกลีบรองดอกเรียงกัน 2 ชั้น กลีบดอกจะเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ สีเหลืองนวล
  • ผลละมุด ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ หรือมีปลายแหลม ผิวมีสีน้ำตาล ผลดิบจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม ในยางมีสารที่ชื่อว่า “Gutto” รสฝาด แข็ง ส่วนผลสุกจะนิ่ม มีรสหวาน ไม่มียาง ข้างในผลมีเมล็ดรูปยาวรีสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ใน 1 ผลจะมีเมล็ดประมาณ 2-6 เมล็ด
           
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรบริโภคเพียงเล็กน้อยและนานครั้ง ๆ และไม่ควรให้เด็กเล็กรับประทานละมุดโดยลำพัง

ประโยชน์ของละมุด

ประโยชน์ละมุด
  1. ละมุดมีวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคและช่วยป้องกันหวัดได้
  2. เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงกำลัง
  3. การรับประทานละมุดจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
  4. เปลือกของลำต้นละมุด นำมาต้มปรุงเป็นยาแก้บิด (ประเทศฟิลิปปินส์)
  5. ยางใช้เป็นยาถ่ายพยาธิชนิดรุนแรง
  6. ละมุดเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมาก จึงช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย
  7. ใช้รับประทานเป็นผลไม้ ทำไวน์ หรือนำมาทำน้ำละมุด
  8. ยางที่มีสีขาวทุกส่วนของลำต้นสามารถนำไปใช้ทำหมากฝรั่งและรองเท้าบูทได้

คุณค่าทางโภชนาการของละมุด ต่อ 100 กรัม

ต้นละมุด
  • พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 19.96 กรัม
  • เส้นใย 5.3 กรัม
  • ไขมัน 1.1 กรัม
  • โปรตีน 0.44 กรัม
  • วิตามินบี 2 0.02 มิลลิกรัม 2%
  • วิตามินบี 3 0.2 มิลลิกรัม 1%
  • วิตามินบี 5 0.252 มิลลิกรัม 5%
  • วิตามินบี 6 0.037 มิลลิกรัม 3%
  • วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม 4%
  • วิตามินซี 14.7 มิลลิกรัม 18%
  • ธาตุแคลเซียม 21 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุเหล็ก 0.8 มิลลิกรัม 6%
  • ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม 2%
  • ธาตุโพแทสเซียม 193 มิลลิกรัม 4%
  • ธาตุโซเดียม 12 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม 1%

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คุณประโยชน์มากมายต้องระกำ

สรรพคุณของลูกจันทร์

สรรพคุณของพุทรา